Story of love [junseob]
ตอนจบของเรื่องราวความรักนั้น...มันไม่ได้สวยงามเสมอไป
ผู้เข้าชมรวม
989
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
สวัสดีครับ ผมชื่อ ยัง โยซอบ เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ แต่ผมตัวสูงนะ (เสริมส้นอ่ะดิ - -) ก็ได้ๆผมเตี้ยก็ได้ครับ แถวอ้วนอีกตะหาก ฟะ..ฟะ..แฟนผมบอกมางี้อ่ะ -/- แต่ผมก็รักแฟนผมมากนะ ถึงเค้าจะเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยพูดอะไร ตั้งแต่คบกันมาสามปีเค้าบอกรักผมไม่กี่ครั้งเอง อืม มม ม ม ห้าครั้งเองมั้งครับ 5555
แต่ไม่เป็นไรหรอกครับยังไงผมก็รัก รัก รัก เค้าหมดหัวใจเลยล่ะ ><
อ่า ถามถึงแฟนผมว่าเค้าเป็นใครหรอครับ เค้าชื่อ ยง จุนฮยองครับ เค้าเป็นนักแต่งเพลง ที่หน้าตาดีที่สุดในสามโลกเลย -/////- (อวดแฟนเล็กน้อย) แต่ก็เพราะไอ้การเป็นนักแต่งเพลงของเค้านี่แหละที่ทำให้เค้าต้องเจอคนมากมาย ผมก็อดหึงเค้าไม่ได้สักที มีผู้หญิงมากมายเข้าหาเค้า แค่เค้าก็เลือกผมแหละครับ สุดท้ายน่ะ >o<
วันนี้ผมมานั่งรอเค้าที่ร้านกาแฟร้านโปรดของเราครับ เป็นที่แรกที่เราได้เจอกันด้วย ตอนนั้นผมยังเป็นเด็กปีหนึ่ง หน้านี่ใสเชียวล่ะครับ คึคึ ผมมาทำงานพิเศษที่นี่เลยเจอเข้ากับจุนฮยองของผม เค้ามาซื้อกาแฟด้วยหน้าตาดูไม่ได้สุดๆเลยครับ ผมมารู้ทีหลังว่าเค้าแต่งเพลงจนไม่ได้นอนน่ะครับ จุนฮยองของผมน่าสงสารใช่มั้ยล่ะครับ TT แต่ก็เพราะนั่นแหละครับทำให้ผมชวนเค้าคุยโน่นนี่มากมาย ได้เพื่อให้เค้าตื่นมารับกาแฟ 55555 แล้วเค้าก็เริ่มมาบ่อยขึ้นเรื่อยๆจนวันนึงเค้าชวนผมไปเดินเล่นหน้าร้าน ผมก็ไปๆงั้นแหละครับ 55555 แต่แล้วเค้าก็บอกว่าเค้าชอบผม เราลองมาคบกันดีมั้ย คิดถึงตอนนั้นแล้ว หน้าก็แดงๆขึ้นมาแฮะ >////< ตอนนั้นผมยังไม่ชอบเค้าเท่าไหร่หรอกครับคนบ้าอะไร ถามคำตอบคำ แต่ก็นะเค้าก็มีมุมน่ารักบ้างนิดหน่อย ทำให้ผมตกลงเป็นแฟนเค้าไป ทั้งๆที่ไม่ได้รักอะไรเลย แหละ แต่นั่นมันตอนนั้นนะครับ ตอนนี้ผมรักเค้าทั้งหัวใจเลยแหละ -/-
ว่าแต่นี่ผมก็รอมานานเอาเรื่องแล้วนะ รวมๆก็สามชั่วโมง นั่งคิดอะไรไปเรื่อยๆอัพเดตข้อมูลข่าวสารจากโลกอินเทอร์เน็ตรอไปเรื่อยๆ และแล้วเค้าก็มาจนได้ครับ แต่เรื่องอะไรผมจะยิ้มรับ ผิดนักตั้งสามชั่วโมงนะ สามชั่วโมงเชียวนะ!
“ขอโทษนะ ฮยองมาช้าไปหน่อย” เค้าพูดแล้วก็นั่งลงที่นั่งตรงข้ามผม ผมนี่มองเค้าตาเขียวเลยครับ กลัวไม่รู้ว่าโกรธ หึ
“หน่อย?” ผมขึ้นเสียงถามนิดหน่อย ก็สามชั่วโมง หน่อย?
“ครับ สามชั่วโมงฮยองรู้ มันนานครับ ขอโทษนะ” ว่าแล้วเค้าก็ยิ้มดูมีลับลมคมในหน่อยๆออกมากจนผมอดสงสัยไม่ได้
“ยิ้มอะไร?” ผมยังทำหน้าบึ้งอยู่แบบนั้น
“ฮยองมีของจะให้น่ะครับ” ว่าแล้วเค้าก็หยิบอะไรสักอย่างออกจากกระเป๋า ผมมองตามมือของแฟนตัวเองอย่างตั้งใจ
แล้วก็พบกับกล่องแหวน แล้วเค้าก็เปิดมันออกมาเป็นแหวนเงินธรรมดานี่แหละครับ แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้เริ่มมีน้ำใสๆมาคลออยู่ที่ตาผมนะครับ T/////T
“วันนี้ครบรอบสามปีที่เราเป็นแฟนกันแล้วนะครับคนเก่ง” แล้วเค้าก็ยื่นมือออกมาจับมือของผมที่ยังนั่งทำหน้าอึ้งๆอยู่ ไปสวมแหวนที่เค้าเพิ่งหยิบมันออกมา
“ฮยอง รัก โยซอบนะครับ” เค้าบอกรักผมช้าช้า ชัดชัด ให้เราได้ยินกันสองคน แล้วน้ำตาผมมันก็ไหลออกมาอย่างกะเขื่อนแตกเลยล่ะครับ ผม ผม รักเค้ามากๆเลยครับ T///T
“โยซอบก็รักฮยอง” ผมว่าแล้วโผกอดมันข้ามโต๊ะกาแฟเล็กนั้นนั่นแหละ เกินไปแล้วนะ โรแมนติกเกินไปแล้ว
บ้าที่สุดเลย ทำให้ผมที่ไม่เคยสนใจเรื่องรักๆใคร่ๆ ได้มารู้จักคำว่ารัก รักจนหมดหัวใจแบบนี้ เค้าจะเก่งเกินไปแล้วนะ T^T
จากนั้นเราก็ไปเที่ยวซื้อของด้วยกันจนถึงตอนเย็นๆ ผมก็ตัดสินใจไปค้างที่บ้านของแฟนผม เพื่อฉลองวันครบรอบของเราอย่างเต็มที่ โดยเราสองคนทำอาหารด้วยกันอย่างมีความสุข
ผมยอมรับเลยครับว่าผมคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดและผมคิดว่ามันจะเป็นแบบนี้ตลอดไป ><
“โยซอบครับ” เสียงของจุนฮยองของผมเรียกผมหลังจากที่เรากินข้าวกันเรียบร้อยแล้ว ผมรีบเดินไปหาเค้าที่นั่งอยู่บนโซฟาหน้าทีวีอย่างเร็ว
..อยากกอดใจจะขาด >o<..
“ว่าไงครับผม” ไปถึงผมก็นั่งคร่อมตักอีกคนทันทีเลย มะ..มันท่าปกติของเราสองคนนะครับ เชื่อผมซิ >//<
“รู้ตัวมั้ยว่าน่ารักขนาดไหน?” จุนฮยองของผมถามแล้วยิ้มน้อยๆออกมา หน้าดุๆของเค้าดูมีความสุขมากๆ ก็ทำเอาผมสุขไปด้วย
“ไม่รู้ .////.” ผมพูดแล้วส่ายหน้ารัวๆ กลัวอีกคนเห็นว่าตอนนี้หน้าแดงขนาดไหนแล้ว
แล้วอยู่ๆเค้าก็จูบผม.....
...ผมรักเค้า รัก รัก รักจนไม่รู้จะอธิบายอะไรอีกแล้วครับ...
หลายเดือนผ่านไป
ช่วงนี้เราไม่ค่อยได้คุยกันเลยครับ จะมีก็แต่คุยโทรศัพท์กันไม่กี่คำเค้าก็ขอวางไปบอกว่างาน ยุ่ง โอเค ซอบบี้เข้าใจ T^T
ตอนนี้ก็เป็นเวลาสามทุ่มครึ่ง เวลาพักกินข้าวของจุนยอมมี่ของผม ผมรู้เรื่องเวลาของเค้าดีมากๆเลยครับ แล้วมันก็มีแต่เวลานี้ที่เราจะคุยกันได้ ผมกดโทรออกไปตามปกติด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
...เดี๋ยวก็จะได้ยินเสียงแล้ว ><...
“อาโหล จุนยอมมี่” ผมทักทายเค้าไปด้วยน้ำเสียงสดใส ดีใจๆๆๆๆ
[ครับผม] เค้าตอบผมกลับมาด้วยเสียงยุ่งๆ หึ กล้าทำเสียงแบบนี้ใส่ซอบบี้หรอ?!
“อื้อ จุนยอมมี่กินข้าวยัง?” ช่วงนี้เราเปลี่ยนการเรียกกันแล้วน่ะครับ ผมว่ามันน่ารักดี -//-
[ยัง] เค้ายังตอบกลับสั้นๆ แต่ไม่รู้ซิเค้าเป็นแบบนี้มาสักสองสามวันแล้ว พอผมถามว่าทำไมทำเสียงแบบนี้ก็บอกว่าเพราะงานทำให้เครียด โอเค ซอบบี้เข้าใจ T0T
“อ่า งั้นก็รีบๆกินนะ เดี๋ยวจะปวดท้อง” ผมบอกไปด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ผมเริ่มน้อยใจแล้วนะ T^T
[อื้ม เดี๋ยวจะกินแล้ว พี่จุนฮยองค่ะ ไปกินข้าวกันได้แล้วค่ะ ครับๆ โยซอบฮยองวางนะจะไปกินข้าวแล้ว ฝันดีล่ะ ตู๊ด..] เอาอีกแล้ว คุณอย่าคิดว่านี่เป็นครั้งแรกที่เค้าทำแบบนี้กับผม เค้าเป็นแบบนี้มาเกือบอาทิตย์แล้วล่ะ คุยๆกันอยู่ก็มีเสียงผู้หญิงขึ้นมา แล้วเค้าก็มักจะวางไปแบบนี้ ให้ตายซิ ผมร้องไห้อีกแล้ว...
สามเดือนต่อมา
วันนี้ผมนักจุนยอมมี่ออกมาทานข้าวด้วยกันครับ นานแล้วนะที่เราไม่ได้ออกมาเที่ยวด้วยกันแถมเค้ายังเอาแต่ทำผมร้องไห้ คราวนี้แหละ จะงอนๆๆๆๆ ให้เข็ดแล้วกลับมาเป็นฮยองขี้ง้อคนเดิมของผมให้ได้เลยคอยดูซิ!!
แต่ตลอดการมาเที่ยวกินข้าวเดินดูของกันวันนี้ มีแต่ผมที่เอาแต่อ้อนๆ เอาใจแบบไร้สาระตลอดเวลา ก็เค้าเล่นไม่สนใจผมเลยนิ แต่จะทำเมินทำงอนก็ไม่ได้ ไม่งั้นเวลาที่เราจะอยู่ด้วยกันมันจะเสียไปเปล่าๆ ผมเลยต้องอ้อนทำตัวน่ารักเยอะๆ หึ แต่สิ่งที่ได้กลับมาคืออะไรรู้มั้ยครับ รอยยิ้มน้อยๆเท่านั้น นับครั้งได้เลย...
...โยซอบทำอะไรผิดไปรึเปล่า...
ผมต้องเคลียร์แล้วครับจะปล่อยให้เราสองคนเป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่ได้ ผมอึดอัด ตกลงจะเอายังไง หลายครั้งที่ผมคิดว่าจะบอกเลิกเค้าไปเลย แต่ผมไม่ทำเพราะผมยัง...รัก
“นี่ ฮยอง..”ผมเริ่มเปลี่ยนสรรพนามในการเรียกที่ปกติผมจะเรียกจุนยอมมี่เป็น ฮยอง เหมือนเมื่อก่อน
“หืม?” เค้ายังคงตอบกลับมาหน้านิ่งๆ ขณะที่เรากำลังนั่งพักที่เก้าอี้
“ฮยอง ยังรักผมอยู่รึเปล่า” ผมตัดสินใจถามคำถามที่ตัวเองอยากรู้มาตลอดในช่วงสามเดือนนี้
“..........” เงียบไม่ตอบ ทำเพียงแค่หลบสายตาผมด้วยการก้มหน้า
...เออ ยงจุนฮยองให้มันได้อย่างนี้ซิ...
“ทำไมฮยองไม่ตอบผม”
“................”
“แค่คำว่ารัก บอกมาซิ” ตอนนี้ความรู้สึกจุกๆที่คอมันมาแล้วครับ
“...............” ยังคงเงียบก้มหน้าไม่สบตาต่อ
“ไม่รัก..ผมแล้วใช่มั้ย” ผมพูดคำพูดที่ทำร้ายจิตใจตัวเองที่สุดออกไป ตอนนี้น้ำตาของผมมันไหลออกมามากมายโดยที่ผมไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย
“................” เงียบ เหมือนเดิม
“ฮึก” ผมได้แต่กัดปากตัวเองเพื่อกลบเสียงสะอื้นคนอื่นๆที่เดินผ่านไปมาจะได้ไม่สังเกตอะไรมาก
“เราเลิกกันเถอะนะ”
헤어지란 말만 끝내라는 말만
그 말만 하지 마요
คำพูดที่ร้ายกาจแบบนั้น คำว่าเลิกกัน..
ได้โปรด.. อย่าพูดมันออกมา
“ฮยอง รัก โยซอบนะครับ”..มันยังคงดังวนอยู่ในหัวของผม.....
-----------------------------------------------------------------------------
อิอิ แล้วก็จบไปอย่าง...... ไม่รู้แหละ 5555
คือเอาจริงๆชีวิตแป้งกับความรักมันมักเป็นงี้ตลอดเลย
ฮึ้ยๆ TT โดนบอกเลิกตัลหลอด - -;
แต่ช่างมันเหอะ แป้งไม่ได้อะไรกับตัวเองมากล่ะ
ฟิคเรื่องนี้แป้งก็แต่งแบบ ดองๆไว้แล้วมาแต่งที อะไรแบบนี้ 5555
ภาษามันก็อาจจะป่วนๆงงๆ ต้องของโทษด้วยนะคร้าบ (_ _)
อีกอย่างนึงแป้งอยากแต่งฟิคทำร้ายหนูโยมาตลอดสองสามเดือน
แต่ก็ไม่รู้จะแต่งยังไง ก็เลยปิ๊ง เออเอางี้แหละ เจ็บสุดๆแน่ๆ
อุว่ะฮ่ะฮ่าาาาาาาาาา เป็นไงล่ะ เจ็บสุดๆ 555555
สำหรับช่วงนี้ก็จะเปิดเทอมแล้ว
แป้งก็ได้ดองฟิคไว้จำนวนมากมายเหลือเกิน
ทั้งเรื่อง มัม พาเล้น อะเทาซันเยียร์ (ดูมันไทยฝุดๆ 55555)
คือสามเรื่อง มันไม่ใช่น้อยๆนะ แต่ล่ะเรื่องก็มีหลายๆตอน 5555
ซึ่งช่วงนี้แป้งก็หนักไปทางเรื่อง รักพันปี ของพ่อแวมไพร์กับโยซอบแสนซน
ไม่รู้ว่าจะได้รับความรักเยอะไปไหน หายไปตอนเดียว บ่นกันทุกคอมเม้นเลยซิให้ตาย 5555
(แอบนินทารีดเดอร์)
สุดท้ายนี้ใครจะเปิดเทอมแล้วเช่นแป้งนั้นก็ตั้งใจเรียนกันน้า
อย่าดื้ออย่าซนรู้มั้ย ถ้าเค้ารู้เค้าจะไม่อัพฟิคนานๆเลยน้า (ปกติก็ทำ 5555)
รักทุกคนจุบิจุบิ >3<
ผลงานอื่นๆ ของ -ปป.- ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ -ปป.-
ความคิดเห็น